เรื่องสั้นแปลไทย : เรื่องเล่า 1 เรื่องของแจ็คเก็ต 2 ตัว

   
            A Tale Of Two Jackets





                       แอนดริวเดินออกมาจากการประชุมของเขาด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยแทบหมดแรง หลังจากที่การเจรจาผ่านไป 3 วัน ในที่สุดเขาก็ได้ตกลงทำงานที่ทำให้เขามั่นใจว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่ง ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาต้องกลับไปที่นิวยอร์คในตอนเช้า แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะนั่งดื่มในผับตรงข้ามกับถนน เขาได้อยู่ในลอนดอนมาเป็นเวลา 3 วันแล้วและไม่ได้เห็นเมืองอื่นๆ เขาไม่สามารถออกไปไหนได้ถ้าอย่างน้อยแล้วไม่ได้มานั่งดื่มในผับเขาคิด
                   
                       เขาเดินข้ามถนนอย่างฉับไวและเดินผ่านประตูสีฟ้าของผับเข้าไปข้างใน เขาสังเกตเห็นราวแขวนเสื้ออยู่ติดกับข้างประตูและค่อยๆถอดเสื้อเขาออกและแขวนที่ตะขออันหนึ่งอย่างระมัดระวัง แอนดริวไม่ได้ใส่ใจแม้แต่ว่ามันคือแจ็คเก็ตของเขา เพราะมันคือแจ็คเก็ตของพ่อ แต่มันถูกส่งต่อให้เขาใช้หลังจากที่พ่อของเขาเสียเมื่อปีก่อน คามทรงจำของแอนดริวส่วนมากที่เกี่ยวกับพ่อของเขาคือการที่เขาใส่เสื้อโค้ทสีแดงเข้ม 

                      แอนดริวเดินตรงไปที่บาร์และเริ่มสั่งเครื่องดื่ม หลังจากที่เขาดื่มเสร็จบาร์เทนเดอร์ก็เดินเข้ามาถามเขาว่าต้องการเครื่องดื่มอะไรเพิ่มมั้ย แอนดริวจึงเช็คนาฬิกาและตั๋วการเดินทางของเขาว่าต้องออกจากที่นี่ภายใน 5 ชั่วโมง เขาเลยตัดสินใจที่จะกลับและรู้สึกเสียใจที่ไฟลท์ของเขามันค่อนข้างเช้า แต่เขาก็รู้ว่าค่อยไปหลับบนเครื่องได้ เขาจึงจ่ายค่าเครื่องดื่ม หยิบแจ็คเก็ตแล้วเดินทางออกไป

                      ตั้งแต่ที่แอนดริวเข้าไปในผับข้างนอกก็เริ่มหนาวขึ้น เขาจึงรีบสวมแจ็คเก็ต แต่ทว่า เขาพยามที่จะใส่แจ็คเก็ต แต่แขนของเขาติดกับแขนเสื้อ ท้ายที่สุดแล้วมันก็เล็กเกินกว่าที่เขาจะใส่ได้ เขาลองใส่อีกข้างหนึ่ง แต่มันก็ยังเล็กเกินไป เขาจึงถอดออกมาและดูแจ็คเก็ตตัวนั้นว่า

                      มันดูเหมือนกับแจ็คเก็ตของเขาในแบบหดๆ เขาเช็คในกระเป๋าของแจ็คเกตและควานหากระเป๋าตังค์ แน่นอนว่าสิ่งที่เจอไม่ใช่ของเขา เขาจึงเปิดออกมาดูและพบกับบัตรประชาชนของผู้คนหนึ่ง ชื่อของเธอคือเอริน เธอมีพบสีน้ำตาลเข้มและดวงตาสีเขียว เป็นผู้หญิงที่น่ารัก เขาคิด แต่เขาไม่มีเวลากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้!

                     เขากลับไปที่บาร์แล้วหาแจ็คเก็ตตามราวแขวนเสื้อ แต่!เสื้อของเขาก็หายไปแล้ว มันมีแค่เสื้อโค้ทสีดำ 3 ตัว และสีน้ำตาล 1 ตัวแขวนอยู่ ไม่มีเสื้อสีแดงของเขาปรากฎอยู่ เขาเดินไปรอบบาร์แล้วมองหาเอรินที่เขาคิดว่าเธออาจจะหนาวแล้วสวมเสื้อแจ็คเก็ตของเขาอยู่ แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่ในนี้เลยสักคน เขายืนนิ่งกำลังคิดว่าจะตัดสินใจทำยังไงดี เขาไม่สามารถทิ้งแจ็คเก็ตของพ่อเขาไว้ที่ลอนดอนได้ และเอรินเธอก็อาจจะต้องการกระเป๋าตังค์ของเธอเช่นกัน

                     เขาพิมที่อยู่ของเธอจากบัตรประชาชนในโทรศัพท์ของเขา แล้วก็พบว่าบ้านของเธออยู่ถัดไปไม่กี่บล็อคนี้ เขาสามารถไปที่บ้านของเธอ แลกแจ็คเก็ตคืน แล้วยังมีเวลาพอกลับไปงีบนิดหน่อยที่โรงแรมของเขาได้ 

                    เขาเดินท่าามกลางอากาศที่หนาวเหน็บในกลางคืน และเสื้อเชิ้ตบางๆของเขาก็ไม่ได้ทำให้อุ่นขึ้นเลย เขามองหาบ้านของเธอแล้วจึงเคาะประตู เมื่อประตูถูกเปิดออก ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขากลับไม่ใช่เอริน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเธอในวัยแปดสิบกับผมขาวสว่าง 

                    'มีผู้หญิงที่ชื่อเอรินอาศัยอยู่ที่นี่มั้ยครับ' เขาเอ่ยถาม 
                    
                    'ไม่ ไม่มีใครอยู่ที่นี่ นอกจากฉัน' เธอตอบกลับ

                    เขาจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าแจ็คเก็ตแล้วหยิบบัตรประชาชนขึ้นมาส่งให้หญิงชราดู  
           
                    'คุณพอจะรู้จักเธอมั้ย' เขาถาม

                    'อ้อ ใช่ ฉันรู้จัก เธอคือผู้หญิงที่อาศัยอยู่ที่นี่ก่อนหน้าฉันหน่ะ ฉันเห็นตอนเธอกำลังย้ายออก เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารัก ใช่มั้ยล่ะ' 

                    'คุณพอจะรู้วิธีที่จะติดต่อเธอมั้ยครับ มันเป็นเรื่องเร่งด่วนหน่ะ'

                    'อ่า ฉันไม่รู้จักเธอจริงๆ แต่ฉันสามารถโทรหาเจ้าของที่ดินได้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่างแหละนะ'

                   'เยี่ยมไปเลยครับ ถ้ามันจะไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป' แอนดริวพูด

                   'ไม่มีปัญหาแน่นอนจ้ะ' 

                   หญิงชราจึงเชิญเขาให้เข้ามานั่งตรงม้านั่งยาวในบ้าน เธอเดินเข้าไปในครัว แล้วเขาก็ได้ยินเธอกำลังคุยโทรศัพท์ เขามองดูกระเป๋าตังค์ใบนั้นอีกครั้ง พยายามที่จะหาร่องรอยของเธอ แต่ทั้งหมดที่เขาเจอคือบัตรเครดิต 2 ใบ และรูปเธอกับเหล่าเพื่อนๆ

                   'เธอต้องเป็นคนพิเศษมากแน่ๆใช่มั้ยล่ะ' หญิงชราพูดในขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

                   แอนดริวผงกหัวขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนที่เขารู้สึกว่าตนเองได้จ้องรูปเธออยู่

                   'โอ้ ไม่ครับ ผมไม่เคยเจอเธอ' แอนดริวตอบกลับ

                   หญิงชราดูสงสัยแต่ก็ยื่นมือส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับเขา 

                   'เจ้าของที่ดินบอกว่า เขาก็ไม่รู้วิธีติดต่อเธอเหมือนกัน แต่เขาให้ชื่อผับที่เธอชอบไปให้ฉันมา ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้มั้ย' 
                      
                   แอนดริวพิมที่อยู่ที่ถูกเขียนลงบนกระดาษในโทรศัพท์อีกครั้ง และพบว่าต้องใช้เวลา 10 นาทีในการเดินไป และเขาตระหนักได้ว่าเครื่องบินจะออกภายใน 4 ชั่วโมง เขาจึงเอ่ยขอบคุณกับหญิงชราแล้วรีบเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ตรงไปยังผับนั้น

                   ภายในคลับ เขามองผ่านฝูงคนแต่ก็ไม่พบเอรินว่าอยู่ที่ใด ไม่มีใครดูเหมือนเธอเลยสักคนเดียว

                   เขาก้าวออกมาจากผับนั้น เอนกายพิงกำแพง เขาไม่ได้สังเกตว่ามีผู้หญิงที่พิงกำแพงอยู่ติดกับเขานั้นสวมแจ็คเก็ตสีแดง และมันดูใหญ่เกินไปสำหรับเธอ อย่างไรก็ดีเธอสังเกตเห็นเขา

                   'แจ็คเก็ตนั่นมันอาจจะทำให้อุ่นขึ้นก็ได้นะ ถ้าคุณสวมมันหน่ะ' เธอพูด

                   แอนดริวแหงนมองขึ้นมาก็เห็นว่าเอรินกำลังจ้องเขาอยู่

                   'เดี๋ยวนะ คุณคือเอรินใช่มั้ย' เขาถาม

                   'ใช่ แต่มันแปลกนะที่คุณรู้หน่ะ' เธอตอบกลับ

                   'ผมกำลังตามหาคุณอยู่ทั้งคืน คุณสวมแจ็คเก็ตของผมอยู่นะรู้มั้ย พวกเราสลับแจ็คเก็ตอย่างไม่ได้ตั้งใจที่ผับก่อนหน้านั้น'

                    'แล้วคุณตามหาฉันได้ยังไงหรอคะ' เธอยิ้มไปด้วยขณะที่ถาม รอยยิ้มของเธอสวยงามมากในผู้คนทั่วไป เขาคิด

                    'เรื่องมันยาวหน่ะครับ' 

                    'เดี๋ยวนะ ฉันอยู่ที่ผับนี้ตั้งแต่ราวๆ 2 ชั่วโมงผ่านมา แล้วคุณก็ตามหาฉันด้วยเวลาเท่านี้จริงๆหน่ะหรอ'

                    'ใช่ผมตามหาแจ็คเก็ตของผมครับ จริงๆ' แอนตอบแล้วหน้าของเขาก็เริ่มแดงขึ้นมา

                    'ฉันชอบนะ คนที่เขามุ่งมั่นที่จะตามหาแจ็คเก็ตของเขาหน่ะ' เอรินพูดพร้อมกับถอดแจ็คเก็ตของแอนดริวออกและส่งคืนให้เขา เขาเอามันไปพาดไว้บนไหล่และรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเอรินที่ยังคงอยู่ในแจ็คเก็ตนั้น 

                    'ฉันชอบเรื่องยาวๆนะ อยากไปดื่มกาแฟแล้วเล่าเรื่องของคุณมั้ยล่ะ' 

                    'แน่นอน'แอนดริวยิ้มให้เธอ และรู้ตัวว่าเขาจะตกเครื่องในอีกชั่วโมงนึงที่จะถึงนี้ แต่เขาก็ไม่แคร์ :)



Thai translated by Aaum_exo 

คราวนี้มาลองอ่านเรื่องสั้นกันบางเนอะ แปลง่ายดี 555555555 ลองแปลสไตล์อื่นไปเรื่อยๆจ้า ถ้าเป็นนิยายก็คงต้องให้ได้มหาลัยแล้วก่อน ถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนบอกได้น้าา 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม