สหรัฐเรียกร้องความสงบในขณะที่วิกฤตการณ์ในเคอร์คุกลุกลาม


US urges calm as Kirkuk escalates


            สหรัฐอเมริกาได้เรียกร้องความสงบหลังจากรัฐบาลอิรัคได้เข้ายึดตอนเหนือของเมืองเคอร์คุกและมีการเข้ายึดครองโดยชาวเคิร์ด (Kurdish) ที่เข้าควบคุม 

            Heather Nauert โฆษกหญิงประจำกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าไปเรียกร้องให้ทุกฝ่าย 'หลีกเลี่ยงการปะทะกันที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง'

            ทหารอิรัคเคลื่อนเข้าสู่เคอร์คุกเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากภูมิภาค Kurdistan จัดให้มีประชามติเป็นอิสระที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

            พวกเขามีเป้าหมายว่าจะเอาพื้นที่คืนภายใต้การควบคุมของชาวเคิร์ด ตั้งแต่กลุ่มก่อการร้ายของอิสลามครอบคลุมไปทั่วภูมิภาคนี้ 

            พื้นที่อยู่อาศัยที่ชาวเคิร์ดเข้าควบคุม คือ เคอร์คุก ซึ่งได้รับการออกเสียงสนับสนุนจากอิรัคเมื่อวันที่ 25 กันยายน 

            ในขณะที่เคอร์คุกอยู่นอกบริเวณอิรัค Kurdistan แต่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวเคิร์ดที่อยู่ในเมืองได้รับการอนุญาตให้เข้ามีส่วนร่วม 

            Haider al-Abadi นายกรัฐมนตรีประจำประเทศอิรัคได้ประณามการลงคะแนนเลือกตั้งว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลของ  Kurdistan (KRG) ได้ยืนกรานว่าเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย

            ในขณะเดียวกัน นักข่าวได้รายงานว่า ทหารกองหนุนที่สนับสนุนโดยรัฐบาลแบกแดดได้เข้าควบคุมเมือง Sinjar ในพื้นที่ตอนเหนือไปจนถึงตะวันตกของจังหวัด Nineveh

           นักข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเข้ายึดพื้นที่เกิดขึ้นโดนปราศจากความรุนแรง หลังจากที่ทหารชาวเคิร์ดได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ 



ท่าทางของอเมริกาเป็นอย่างไรจากที่วิกฤตการณ์ได้ลุกลาม?

           ในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ นาง Nauert ได้กล่าวว่า ทางวอร์ชิงตันนั้นได้เป็นกังวลจากการรายงานความรุนแรงในเคอร์คุก

           'พวกเราสนับสนุนการเคลื่อนไหวแบบสันติในการบริหารจัดการร่วมกัน โดยศูนย์กลางและรัฐบาลภูมิภาค ที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของอิรัคในพื้นที่ที่ขัดแย้งทั้งหมด'

           นาง Nauert กล่าวว่า อเมริกากำลังประสานงานกับทุกฝ่ายและเจ้าหน้าที่เพื่อให้การสนับสนุนการหารือ โดยส่งสัญญาณว่า 'มีงานอีกมากมายที่ต้องจัดการให้เสร็จเพื่อที่จะเอาชนะพวกไอซิส (รัฐอิสลาม) ในอิรัค'

           ในตอนต้นประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ได้กล่าวว่า 'เจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะไม่เข้าข้างใคร' 

           'เราไม่ชอบความจริงที่ว่าพวกเขากำลังเกิดการปะทะกัน' เขากล่าวเพิ่มเติม

           ส.ว.John Mccain คณะกรรมสมาชิกวุฒิสภาการบริหารด้านการใช้อาวุธ เตือนรัฐบาลอิรัคว่ามันเป็นผลกระทบที่รุนแรง ถ้าสหรัฐให้การสนับสนุนอาวุธให้ใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องในการจัดการกับกองกำลังชาวเคิร์ด 

           เขากล่าวอีกว่า สหรัฐอเมริกาให้เครื่องมือและการอบรมฝึกฝนแก่รัฐบาลอิรัคเพื่อต่อสู้ (รัฐอิสลาม) และป้องกันตนเองจากการคุกคามภายนอกประเทศ ไม่ใช่เพื่อโจมตีรัฐบาลภูมิภาคของตนเอง 

           
แล้วเจ้าหน้าที่ชาวเคิร์ดกับแบกแดดล่ะ?


           นาย Abadi กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า 'การจัดการในเคอร์คุกเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องความเป็นเอกภาพในพื้นที่และสกัดกั้นความอันตรายจากการลงประชามติ'

           พวกเราเรียกร้องให้พลเมืองมาร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธของเรา ที่ถูกมอบหมายภายใต้คำสั่งอันเข้มงวด เพื่อปกป้องพลเรือนในพื้นที่ และกำหนดความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และเพื่อปกป้องการยึดครองรัฐ สถาบันทางการศึกษา เขากล่าวเพิ่มเติม

           เมื่อวันจันทร์ ทหารอิรัคให้การว่า หน่วยของพวกเขาได้เข้าควบคุมฐานทัพ K1  น้ำมัน Baba gur แก๊สเชื้อเพลิง และสำนักงานน้ำมันแห่งชาติ

           รัฐบาลในกรุงแบกแดดกล่าวว่า ทหารเคิร์ด ได้ถอนกำลังโดยปราศจากการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม การปะทะกันได้ถูกรายงานในตอนใต้ของพื้นที่ และมีเสียงการยิงปืนถูกจับโดยช่างภาพของ BBC ในขณะที่ทีมงานกำลังถ่ายทำใกล้กับจุดตรวจ

          ตกบ่าย ประชาการกว่าหนึ่งหมื่นคนได้หนีออกจากเมืองด้วยความกลัวจากการปะทะที่ใกล้เข้ามา
ของสองฝ่าย ยานพาหนะของรัฐบาลอิรัคได้เคลื่อนเข้าสู่ใจกลางเคอร์คุก ภาพที่ปรากฎในโซเชี่ยลเผยให้เห็นว่า กองกำลังอิรัคกำลังนั่งอยู่ในที่ประชุมของรัฐบาล

          กองกำลังได้ทำลายธงของชาวเคิร์ด ที่กำลังปลิวไสวอยู่เคียงข้างธงชาติอิรัค อ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์

          นาย Abadi ได้สั่งการให้นำธงขึ้นไปเหนือดินแดนที่มีข้อพิพาททั้งหมด

           ความเร็วของกองกำลังอิรัคทำให้ไปถึงใจกลางเมือง และนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่่ติดอาวุธ ที่ต่างก็กล่าวหากันว่า เป็นผู้ทรยศ 

           คำสั่งทั่วไปของ Peshmerga ที่นำโดยประธานาธิบดี Massoud Barzani พรรคประชาธิปัตย์ปกครอง Kurdistan (KDP) ได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่สหภาพการรักชาติเพื่อความช่วยเหลือของ Kurdistan (PUK) ว่า 'เป็นอุบายที่ต่อต้านประชากรของ Kurdistan '

          PUK ให้การปฏิเสธว่า ในส่วนของคำสั่งการถอนกำลัง ได้กล่าวว่าทหารของพวกเขาถูกฆ่าและบาดเจ็บหลายราย แ่ต่ถูกบันทึกว่า ไม่เกิดขึ้นแม้แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง KDP Peshmerga กำลังทรมาน ในขณะที่การต่อสู้ในเคอร์คุกยังอุบัติอยู่ 

          ในขณะเดียวกัน ตุรกี ที่กลัวความเป็นอิสระของชาวเคิรดในอิรัค อาจนำไปสู่การเรียกร้องหลายๆอย่างคล้ายกันกับกลุ่มชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด แบกแดดกล่าว อาจพูดได้ว่าพร้อมที่ร่วมมือกับรัฐบาลอิรัคเพื่อที่จะจบการมีอยู่ของ PKK ในดินแดนของอิรัค

          The PKK หรือ พรรคกรรมกร Kurdistan เป็นกลุ่มกบฎชาวตุรกีและเคิร์ด ที่ต่อสู้เพื่อการเป็นอิสระตั้งแต่ปี 1980 มันถูกพิจารณาว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยตุรกี รวมทั้งยุโรปและอเมริกา 

           
ทำไมเคอร์คุกถึงเป็นใจกลางของวิกฤตการณ์?

     
           เคอร์คุกเป็นจังหวัดที่มีน้ำมันเป็นจำนวนมาก ยืนยันโดย ชาวเคิร์ดและรัฐบาลกลาง และมีชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดเป็นส่วนมาก แต่ภูมิภาคของมันตรงศูนย์กลางเป็นพื้นที่ของชาวอาหรับและตุรกีจำนวนมาก

            กองกำลัง Kurdish Peshmerga ได้เข้าครอบคลุมจังหวัดตั้งแต่ปี 2014 เมื่อผู้ก่อการร้ายชาวอิสลาม (IS) เข้ายึดพื้นที่ตอนเหนือของอิรัคและกองทัพอิรัคได้ทรุดลง

           รัฐสภาอิรัคขอให้นาย Abadi นำทัพเข้าสู่เคอร์คุก และพื้นที่ส่วนอื่นๆ หลังจากผลการลงประชามติถูกประกาศออกไป แต่เขากลับพูดว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเขาได้อนุมัติให้พวกเขาอยู่ภายใต้การบริหารจัดการร่วมกัน และเขาไม่ต้องการเผชิญหน้าด้วยอาวุธ

           ในวันอาทิตย์ รัฐสภาของเขาได้กล่าวว่า the KRG การนำกองกำลังที่ไม่ใช่เข้าสู่เคอร์คุกประกอบด้วยสมาชิกของ The PKK  ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นการประกาศสงครามไม่ต่างกัน แต่เจ้าหน้าที่ KRG ก็ปฏิเสธถึงเรื่องนี้


Thai translated by Aum_exo
          

           

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม